ขั้นตอนการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ

Share |

 

 ขั้นตอนการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ

รูปแผนภาพขั้นตอนการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ

การเลือก BTU ของเครื่องปรับอากาศ

BTU (BRITISH THER MAL UNIT) คือ ขนาดทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ มีหน่วย ดังนี้ 1 ตันความเย็น เท่ากับ 12000 BTU/HR. ซึ่งเป็นค่าประสิทธิภาพที่แสดงว่า เครื่องปรับอากาศมีความสามารถในการนำพาความร้อนออกจากห้องในเวลา 1 ชั่วโมง เราควรเลือก BTU ให้เหมาะสมกับขนาดของห้องที่จะติดตั้ง โดยใช้การเปรียบเทียบการเลือกขนาดของ BTU กับพื้นที่ห้อง ดังนี้

BTU/Hr. ขนาดห้องปกติ ห้องที่โดนแดด
9,000 9 - 14 ตร.ม. 9 - 13 ตร.ม.
12,000 14 - 20 ตร.ม. 13 - 17 ตร.ม.
18,000 20 - 28 ตร.ม. 17 - 25 ตร.ม.
24,000 28 - 36 ตร.ม. 25 - 33 ตร.ม.
30,000 36 - 44 ตร.ม. 33 - 41 ตร.ม.
36,000 44 - 59 ตร.ม. 41 - 55 ตร.ม.
42,000 59 - 65 ตร.ม. 55- 61 ตร.ม.
48,000 65 - 76 ตร.ม. 61 - 70 ตร.ม.

ทำไมต้องเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศให้พอดี

เลือกแอร์ใหญ่เกินไป คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อยครั้ง สิ้นเปลืองพลังงาน ความชื้นในห้องสูง ไม่สบายตัว ราคาและค่าติดตั้งสูงขึ้น

เลือกแอร์เล็กเกินไป คอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลา สิ้นเปลืองพลังงาน อายุการใช้งานสั้น ห้องไม่เย็น หรือเย็นช้า

ปัจจัยที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม

  1. จำนวนและขนาดของหน้าต่าง
  2. ทิศที่แดดส่องถึงหรือทิศที่ตั้งของห้อง
  3. วัสดุหลังคามีฉนวนกันความร้อนหรือไม่
  4. จำนวนคนใช้งานในห้อง
  5. จำนวนและประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้อง

 

ประเภทของเครื่องปรับอากาศ

Wall Typeแอร์ติดผนัง

แอร์ติดผนังเป็นแอร์ที่มีฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลาย ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกระทัดรัดรูปลักษณ์ทันสมัย ประหยัดพลังงานและราคาไม่แพง ตอบโจทย์ต่อความต้องการในการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ บำรุงรักษาง่าย เป็นที่นิยมสำหรับการใช้ในครัวเรือน และการใช้ในห้องขนาดเล็ก 

Ceiling Typeแอร์แขวนใต้ฝ้า-วางตั้งพื้น

แอร์ตั้ง-แขวนเหมาะกับห้องขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่มีคนอยู่หนาแน่น เช่น ร้านค้า ห้องอาหาร อาคารสำนักงาน ติดตั้งใต้ฝ้าเพดาน บางแบบสามารถติดตั้งแบบวางบนพื้นได้ สามารถกระจายลมเย็นได้ไกลและทั่วถึง ทนต่อการใช้งานหนัก แต่การทำงานของเครื่องแอร์มีเสียงดังกว่าแบบติดผนัง 

Cassette Typeแอร์ฝังในฝ้า

แอร์ 4 ทิศทาง ตัวเครื่องแอร์ ท่อน้ำยา และท่อน้ำทิ้ง สามารถติดตั้งภายในฝ้าเพดาน ทำให้สามารถรักษารูปทรงความสวยงามของห้องได้ดังเดิม ลดข้อจำกัดในการติดตั้ง เหมาะกับ ห้องที่ต้องการรักษาความสวยงาม ที่ต้องการให้เห็นตัวเครื่องแอร์น้อยที่สุด ราคาเครื่องต่อบีทียูแพงกว่าประเภทอื่น 

Package Typeแอร์ตู้ตั้งพื้น

เครื่องแอร์แบบตู้ตั้ง ติดตั้งบนพื้น มีประสิทธิภาพในการการกระจายลมเย็นสูง ทนทานต่อฝุ่นควัน เหมาะกับการใช้งานหนัก ในพื้นที่ที่มีคนหนาแน่น ในโรงงาน หรือห้องโถงขนาดใหญ่ ติดตั้งได้ง่าย สามารถทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว แต่การทำงานใช้เสียงดัง เปลืองไฟกว่าเครื่องปรับอากาศชนิดอื่น และ เสียพื้นที่การใช้งานของห้องไปบางส่วน 

เครื่องปรับอากาศประหยัดพลังงาน

เครื่องปรับอากาศมีอัตราการใช้พลังงานที่แตกต่างกัน การเลือกเครื่องปรับอากาศที่สามารถประหยัดพลังงานได้สูง สังเกตง่าย ๆ ได้จาก ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่ได้รับรองจากหน่วยงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) Airbestbuy แสดงรายละเอียดของ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ไว้ในรายละเอียดของสินค้า

แอร์อินเวอร์เตอร์ ระบบประหยัดไฟสูงสุด

สิ่งที่ต่างจากเครื่องปรับอากาศแบบทั่ว ๆไป คือ เครื่องปรับอากาศที่มีระบบอินเวอร์เตอร์ สามารถปรับความเร็วของคอมเพรสเซอร์ เพื่อให้เหมาะสมกับความเย็นในขณะนั้น ๆ เมื่ออุณหภูมิภายในห้องปรับอากาศได้ถึงค่าที่ตั้งไว้แล้ว เครื่องปรับอากาศจะสามารถลดรอบความเร็ว ในการทำงานของคอมเพรสเซอร์ลง และรักษาอุณหภูมิภายในห้องได้คงที่ จึงทำให้ประหยัดพลังงานกว่าเครื่องปรับอากาศทั่วไปถึง 40-60%

Benfits of Inverter

ระบบอินเวอร์เตอร์ ทำงานอย่างไร

ส่วนประกอบสำคัญของเครื่องปรับอากศ คืออุปกรณ์ที่มีชื่อว่าคอมเพรสเซอร์ ทำหน้าที่เปรียบเสมือนหัวใจของมนุษย์ที่คอยสูบฉีดน้ำยาไปหล่อเลี้ยงทั้งระบบทำความเย็น ระบบปรับอากาศแบบเดิม คอมเพรสเซอร์จะทำงานตัดต่อเป็นจังหวะตามช่วงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ ซึ่งในการสตาร์ทคอมเพรสเซอร์แต่ละครั้งจะใช้พลังงานสูงกว่าช่วงการทำงานอื่น นั่นหมายถึงจำนวนเงินค่าไฟที่เราต้องจ่ายเพิ่มขึ้นนั่นเอง แต่ระบบปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์คอมเพรสเซอร์ทำงานต่อเนื่อง และปรับความเร็วตามสภาพการทำงาน จึงไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าจากการสตาร์ทเครื่องบ่อยๆ นั่นคือจำนวนเงินที่ประหยัดได้จากค่าไฟของแอร์นั่นเอง

ความแตกต่างของแอร์ที่มีระบบ Inverter และแอร์ธรรมดา ที่ไม่มีระบบ Inverter

แอร์ธรรมดา

สิ้นเปลืองไฟ เนื่องจากจะทำงานจนกว่าแอร์เย็นจนถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้แล้วแอร์จะหยุดทำงาน และเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ระดับคอมเพรสเซอร์แอร์ก็จะทำงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการสตาทร์ตัวเองจะกินไฟมากกว่าช่วง Run ประมาณ 3-5 เท่า จะเกิดเสียงทุกครั้งเมื่อระบบเริ่มการทำงานใหม่

แอร์ที่มีระบบ Inverter

ประหยัดไฟกว่า เพราะว่าคอมเพรสเซอร์แอร์สตาร์ทครั้งเดียวและจะทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยใช้วิธีลดรอบการทำงาน แอร์ทำงานเงียบเพราะเมื่ออุณหภูมิเย็นตามที่เราตั้งไว้รอบคอมเพรสเซอร์แอร์จะต่ำทำให้เสียงเงียบ และจะไม่มีเสียงสตาร์ทตัวของคอมแอร์ตลอดระยะเวลาใช้งาน 

ทำไมต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อซื้อแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์

เนื่องจากแอร์อินเวอร์เตอร์สามารถประหยัดพลังงานได้มากกว่าแอร์ทั่วไป ดังนั้นถึงแม้ว่าแอร์อินเวอร์เตอร์จะมีราคาสูงกว่าแอร์ทั่วไป แต่เมื่อเปรียบเทียบค่าไฟฟ้าที่ลดลงในแต่ละเดือนจะสามารถคืนทุนได้ภายในเวลาอันสั้น เพียง 1-2 ปี ซึ่งอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศโดยทั่วไปอยู่ที่ 10-15 ปี จึงคุ้มค่าแก่การลงทุน

DC Inverter คอมเพรสเซอร์ทำงานแตกต่างจากคอมเพรสเซอร์ทั่วไปอย่างไร

การทำงานของ DC Inverter จะสอดคล้องกับปริมาณความเย็นที่ต้องการ ในช่วงของห้องที่ต้องการความเย็นมาก คอมเพรสเซอร์จะทำงานที่รอบสูงและพัดลมจะหมุนเร็ว แต่ในช่วงที่อุณหภูมิใกล้เคียงค่าที่ต้องการแล้ว คอมเพรสเซอร์จะลดงรอบการทำงานลงและพัดลมก็หมุนช้าลงด้วย ในขณะที่คอมเพรสเซอร์ทั่วไป ทั้งคอมเพรสเซอร์และพัดลมจะหมุนด้วยความเร็วคงที่ตลอดการทำงาน

การติดตั้งและการดูแลรักษาแอร์

การติดตั้งที่ถูกต้องและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เครื่องปรับอากาศ ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และมีอายุการใช้งานยืนยาว

การติดตั้งแผงระบายความเย็นในห้อง (Fan Coil Unit)

  1. ควรตั้งในบริเวณที่สามารถกระจายลมได้ทั่วห้อง อย่าติดตั้งเครื่องในมุมอับ
  2. อย่าให้สิ่งของกีดขวางทางไหลของอากาศ เพราะจะทำให้อากาศหมุนเวียนไม่สะดวก
  3. บริเวณที่ติดตั้งเครื่อง ต้องแข็งแรงสามารถรับน้ำหนักและแรงสั่นสะเทือนจากการทำงานได้
  4. หลีกเลี่ยงการวางแฟนตอยส์ยูนิตใกล้กับประตู หน้าต่างหรือพัดลมดูดอากาศ
  5. ควรวางแฟนคอยส์ยูนิตในบริเวณที่สามารถตรวจซ่อมภายหลังได้อย่างสะดวก
  6. อย่าตั้งชิดผนังที่โดนแดดจัดเพราะจะทำให้ได้รับความร้อนจากภายนอกได้ง่าย

 

หลักการติดตั้งเครื่องปรับอากาศห้องแบบต่าง ๆ

ห้องที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าห้องที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่ควรติดตั้งเครื่องปรับอากาศบริเวณกลางห้อง เพราะจะทำให้การกระจายลมเย็นไม่ทั่วถึง

กรณีที่ห้องยาวมาก ๆกรณีที่ห้องยาวมาก ๆ ควรเปลี่ยนจากการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ BTU สูงๆมาใช้ขนาด BTU ต่ำๆ เพื่อประหยัดพลังงาน โดยสามารถใช้คู่กับฉากกั้นห้อง เพื่อกำหนดพื้นที่ทำความเย็นของแต่ละจุด(เครื่อง) เพราะหากใช้ขนาด BTU สูง เพียงเครื่องเดียว แต่มีคนใช้งานในห้องน้อย การเปิดให้ความเย็นเต็มที่จะไม่คุ้มค่าไฟ

ห้องมีความสูงหรือต่ำกว่ามาตรฐาน (2.5เมตร)ห้องมีความสูงหรือต่ำกว่ามาตรฐาน (2.5เมตร) ควรติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบแขวนแทน เพื่อให้กระจายลมเย็น สามารถกระจายได้ทั่วห้อง ไม่ควรติดแบบตั้งพื้น เพราะลมเย็นกระจายไม่ถึงด้านบน

บริเวณประตูห้องบริเวณประตูห้อง ไม่ควรติดตั้งเครื่องปรับอากศเหนือประตู หรือตรงข้ามประตู เพราะเมื่อเราเปิดประตู ความร้อนก็จะเข้ามาในห้อง ซึ่งจะไปกระทบกับเซ็นเซอร์ตรวจกับอุณหภูมิ ทำให้วัดอุณหภูมิผิด คอมเพลสเซอร์จะทำงานตลอดเวลา เพราะว่าห้องร้อนนั่นเอง

ทีมช่างติดตั้งที่ชำนาญของ Air Best Buy จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับตำแหน่งการติดตั้งที่เหมาะสมที่สุด โดยใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน พร้อมรับประกันนานถึง 1 ปี

การใช้เครื่องปรับอากาศอย่างถูกวิธี

  1. ควรติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญและวางในจุดที่กระจายความเย็นได้ดี
  2. ควรล้างเครื่องปรับอากาศปีละ 2 ครั้งและมีการถอดล้างภายในหรือล้างใหญ่ปีละ 1 ครั้ง จะช่วยให้ประหยัดไฟฟ้าและช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์ได้
  3. ควรตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และควรตั้งห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร
  4. ควรตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส
  5. ควรปิดประตูหน้าต่างให้สนิท เพื่อไม่ให้อากาศร้อนหรือความชื้อจากภายนอกเข้ามาในห้อง
  6. ควรปิดแอร์ก่อนออกจากห้องอย่างน้อย 30 นาที - 1 ชั่วโมง จะช่วยลดการใช้ไฟได้ 30 หน่วย/เดือน ประหยัดค่าไฟประมาณ 75 บาท/เดือน

การทำงานของเครื่องปรับอากาศ

เครื่องปรับอากาศทำงานอย่างไร
อากาศร้อนจะเปลี่ยนเป็นอากาศเย็นโดย ....
เครื่องปรับอากาศจะนำพาความร้อนภายในห้องออกไปทิ้งภายนอก ดังนั้นอากาศภายในห้องจึงมีอุณหภูมิลดลงและถูกหมุนเวียนกลับเข้ามาแลกเปลี่ยน ความร้อนภายในเครื่องปรับอากาศอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศภายในห้องถึงค่าที่ตั้งไว้ พร้อมกับควบคุมความชื้นให้เหมาะสมกลายเป็นอากาศเย็นสบายตามต้องการ

สารทำความเย็น R410

สารทำความเย็น R22 ได้มีการใช้งานในระบบปรับอากาศทั้งโรงงานและที่อยู่อาศัยทั่วไป นานกว่า 5 ทศวรรษมาแล้ว แต่สารทำความเย็น R22 นั้น มีส่วนประกอบทำลายชั้นบรรยากาศของโลก ดังนั้นหลายประเทศจึงเปลี่ยนมาใช้สารทำความเย็น R410-A ซึ่งไม่มีส่วนประกอบที่ก่อมลพิษต่อโลก และลดการใช้ R22 ให้หมดสิ้นในช่วงศตวรรษที่ 21 ดังนั้นสารทำความเย็น R410-A เป็นสารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม